การค้นหาตัวตนเป็นกระบวนการสำคัญ ในการค้นหาความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเองในด้านต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกต้องค้นให้เจอก่อนเรียน ม. ปลายผ่านกิจวัตรเช่น การสำรวจความสนใจและความเหมาะสมในการเรียนสาขาวิชาต่าง ๆ ดูว่าตัวเองชอบและถนัดในสิ่งใด จะช่วยให้เลือกสาขาวิชาที่เหมาะกันได้ และสามารถจัดแผนการเรียนได้ตรงเป้าหมาย รวมทั้งการจัดเตรียมความพร้อมด้วยการพัฒนาทักษะทางการเรียนรู้ เช่น ทักษะการอ่าน การเขียน การคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งนำไปสู่การวางแผนอนาคตหลังจากเรียนจบ ม. ปลาย ว่าจะเรียนต่อสายวิชาชีพหรือสายวิชาการ หรืออาจอยากทำงานควบคู่ไปด้วยตั้งแต่อายุยังน้อย หากเป็นความประสงค์ร่วมกันกับครอบครัว
ลูกเป็นเด็กที่กำลังเริ่มโต มีความคิดเป็นของตนเอง รักความเป็นอิสระ มีความมั่นใจในตนเองสูงขึ้น อยากสร้างและเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตแบบใหม่ ๆ แต่ถึงอย่างไรลูกก็ต้องพึ่งพาเราอยู่ดี ฉะนั้นเราจึงต้องเรียนรู้ลักษณะนิสัยของลูกในช่วงวัยเปลี่ยนผ่าน และมีวิธีการที่ชาญฉลาดที่จะก้าวเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของลูก โดยไม่ให้ลูกรู้สึกว่าเราก้าวล้ำความเป็นส่วนตัวในการค้นหาตัวตนของลูก และไม่เข้าไปกำหนดความเป็นตัวตนของลูก ตัวตนของลูกที่ลูกต้องค้นให้เจอก่อนเรียน ม. ปลาย และเราต้องเรียนรู้เพื่อการปรับตัวร่วมกันคือ
ความมีใจกว้างของเราที่เปิดใจรับฟังข้อเสนอและความคิดเห็นของลูก จะช่วยให้ลูกเป็นคนกล้าแสดงออก รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง มีความมั่นใจและมีคุณค่าในตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เราต้องไม่ตื่นเต้นหวั่นไหวจนเกินเหตุ หากข้อเสนอของลูกเป็นสิ่งแปลกใหม่และท้าทาย ที่ลูกค้นหาและค้นพบได้ด้วยตัวเอง และอยากทำสิ่งนั้น เช่น ลูกอยากแบกเป้ไปเที่ยวตั้งแคมป์กับเพื่อน ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นต้องไปเที่ยวกันแบบครอบครัว ตามความคิดของลูกนั่นคือความสุขและความอิสระของการมีชีวิตอยู่ หากทุกอย่างลงตัวทั้งในเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางและการตั้งแคมป์ กลุ่มเพื่อนเดินทาง ค่าใช้จ่าย สถานที่ที่จะเดินทางไป และ ฯลฯ เราก็ควรให้ความยินยอม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกสร้างและเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตได้อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งเหมาะกับวัย และการยอมรับของเราจะเป็นการส่งสารแห่งความสัมพันธ์ที่ดีจากเราสู่ลูกได้
ลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น รักการสำรวจและเรียนรู้จากประสบการณ์ที่ท้าทาย เราจึงควรส่งเสริมและสนับสนุนความอยากรู้อยากเห็นของลูกในทางที่เหมาะสม และให้ทดลองทำในสิ่งที่อาจไม่เคยลองมาก่อน เช่น พาลูกไปร่วมงานอีเวนท์ทางศิลปะ หรือดูงานการแสดงโขน ละคร ดนตรี หรือลองเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ หรือเข้าคอร์สเรียนดนตรีพร้อมกับฝึกเครื่องดนตรีตามที่ลูกชอบ หรือลูกอยากตั้งก๊วนดนตรีหรือแก๊งกีฬา เพื่อให้ลูกทดสอบใจตนเองและลองผิดลองถูก ด้วยการสัมผัสกับของจริงเหตุการณ์จริง เพื่อให้ลูกค้นหาตัวตนได้ด้วยตนเอง ลูกจะเกิดความมั่นใจในการสร้างศักยภาพเพื่อการก้าวสู่โลกภายนอกได้
ลูกในวัยรุ่นจะชื่นชอบบุคคลต้นแบบ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นไอดอลและอินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นมนุษย์อวตาร บุคคลเหล่านี้มีทั้งที่เป็นคนดีเก่งและคนหิวแสง หรือกลุ่มเพื่อนเพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับคนที่มีลักษณะนิสัยอย่างเดียวกัน วัยรุ่นบางคนอาจเรียกร้องความสนใจ เพื่อสร้างตัวตนและสนองปมปัญหาชีวิตของตนเองในครอบครัว ด้วยการเป็นกบฎทางความคิด และดำเนินรอยตามต้นแบบที่ก้าวร้าวรุนแรง เป็นอันตราย และไม่เป็นที่พึงประสงค์ของสังคม จึงสร้างประสบการณ์ที่เลวร้าย นำไปสู่ความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่และโศกสลด พ่อแม่เป็นบุคคลที่ใกล้ตัวลูกมาก จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาตัวตนเชิงบวกของลูกวัย ม. ปลาย เราต้องให้ความรัก ความใกล้ชิด และความผูกพันกับลูก เป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกดำเนินรอยตาม ชวนลูกพัฒนาทักษะการอ่านหนังสือ เพื่อเรียนรู้หลากหลายข้อมูลในการพัฒนาตัวตนและการมองโลกแง่ดี ทักษะการเขียนเพื่อถ่ายทอดความคิดที่แสดงความเป็นตัวตนในเชิงบวก
ลูกรักการค้นหาตัวตนด้วยการพูดคุยปรึกษากับเพื่อน เราจึงควรให้เวลาและพื้นที่กับลูก ทำตัวเป็นเพื่อนกัน อยู่เคียงข้างลูกในยามที่ลูกต้องการ มิเช่นนั้นหากลูกได้ข้อมูลเชิงลบจากบุคคลหรือแหล่งข้อมูลที่บิดเบือน และข้อมูลเหล่านั้นลงลึกฝังหัวไปแล้ว จะทำให้ลูกมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนที่ยากแก่การดึงกลับได้ การพูดคุยกับลูกด้วยปิยวาจา ปฏิบัติตัวต่อกันฉันมิตรและเปิดใจกว้าง จะทำให้ลูกรับรู้ความสามารถและข้อจำกัดของตนเองในด้านต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น และยอมรับคำแนะนำของเราเพื่อการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจะช่วยพัฒนาความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน สร้างความมั่นใจให้ลูกมากขึ้น และลูกได้เรียนรู้ทักษะการแก้ปัญหาและการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อการค้นหาตัวตนของลูกเอง
คำพูดและพฤติกรรมของพ่อแม่ผู้ปกครอง มีอิทธิพลสามารถสร้างตัวตนของลูกได้ในทุกด้าน ฉะนั้นเราอย่าผลักดัน หรือชี้แนะโน้มน้าวแบบสั่งการ จนลูกหลอมเหลวกลายเป็นขี้ผึ้งให้เราปั้นได้ หรือตัดสินใจแทนลูก จนกลายเป็นการบีบรัดบังคับการค้นหาตัวตนของลูก ให้เป็นไปตามทิศทางที่เราต้องการหรือคาดหวัง เราต้องไม่ลืมว่า การค้นหาตัวตนของลูกต้องเป็นไปเพื่อคุณภาพชีวิตและความสุขของลูกทั้งในปัจจุบันและอนาคต ผ่านการส่งเสริมสนับสนุนจากเรา และสิ่งสำคัญที่เราต้องไม่พลาดคือการปรับ Mindset ปักหมุดกระบวนการคิดของเราที่มีต่อลูก โดยไม่ใช้การเผด็จการทางความคิดกับลูก เราต้องใกล้ชิด กอด หอม บอกรักลูก และบอกถึงความภาคภูมิใจในตัวลูกที่ลูกทำเรื่องใดดี ๆ ไปแล้ว และหากมีสิ่งใดที่ต้องแก้ไข ก็บอกลูกด้วยความรัก ความเมตตาปรานี ให้กำลังใจเพื่อการปรับปรุงการพัฒนาตัวตนของลูก และเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสุขภาพตัวเองทั้งกายและใจด้วย เพียงแค่นี้การค้นหาตัวตนที่ลูกค้นพบได้ด้วยตนเอง จะทำให้ลูกก้าวเดินไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย สบายใจ และมีความสุข
ณัณท์
ข้อมูลอ้างอิง
7 Tips for Parent’s to Help Their Teen Create a Strong Sense of Self
https://www.psychalive.org/7-tips-for-parents-to-help-teen-create-strong-sense-of-self/